การตีความที่อาจครอบคลุมชาวต่างชาติมาจากเนื้อหาตามมาตรา 34 ของกฎหมายความมั่นคงที่ระบุว่า ชาวต่างชาติในฮ่องกงอาจถูกเนรเทศโดยไม่จำเป็นต้องมีการฟ้องร้อง หากทำผิดกฎหมาย ขณะที่มาตรา 38 ของกฎหมายเดียวกันระบุว่า จะมีผลบังคับใช้กับบุคคลที่ไม่ใช่พลเมืองฮ่องกง พำนักนอกฮ่องกง แต่มีพฤติกรรมต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงด้วย
นายโดนัลด์ คลาร์ก ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจีน มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน วิเคราะห์ไว้ว่า มาตรา 38 ของกฎหมายความมั่นคง ทำให้ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยต่อต้านรัฐบาลจีนหรือฮ่องกง ควรออกห่างจากฮ่องกงไว้ เพราะมาตราดังกล่าวมีแนวโน้มใช้อำนาจนอกอาณาเขต ที่อาจมีผลครอบคลุมทุกคนบนโลก
แต่ในความเป็นจริง กฎหมายจะถูกตีความครอบคลุมขนาดนั้นหรือไม่ โฆษกรัฐบาลฮ่องกงยืนยันว่า กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่จะไม่ส่งผลกระทบต่อชาวฮ่องกง รวมไปถึงนักท่องเที่ยวและนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และไม่มีพฤติกรรมที่ทำลายความมั่นคงแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลฮ่องกงก็ไม่ได้ยกตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำที่ทำลายความมั่นคงแห่งชาติ มีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง
- แค่วิจารณ์อาจไม่ผิด แต่ถ้าเคยสนับสนุนไม่แน่
การตีความกฎหมายความมั่นคงยังเป็นเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังศึกษา และยังเป็นข้อถกเถียงในหมู่นักกฎหมาย เพราะแม้ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะจากชาติตะวันตกจะกังวลกับกฎหมายฉบับนี้ แต่ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกกลุ่มหนึ่งที่มองว่า บรรดาชาติตะวันตกตีความกฎหมายนี้เกินไป
ศาสตราจารย์ซิน เหอ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายจีนประจำภาควิชากฎหมาย มหาวิทยาลัยฮ่องกงมองว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น่าจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากกฎหมายนี้ พร้อมยกตัวอย่างมาเก๊าที่อยู่ในสถานะเป็นเขตบริหารพิเศษ และใช้กฎหมายเหมือนกับฮ่องกง
ศาสตราจารย์เหอยังมองว่า การที่นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจเคยวิจารณ์ผู้นำจีนในโซเชียลมีเดีย ก็ไม่น่าจะถูกตีความว่าผิดกฎหมายความมั่นคง เว้นแต่ว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวจะเคยมีประวัติบริจาคเงินสนับสนุนกลุ่มการเมืองที่ถูกชี้ว่า ผิดกฎหมายความมั่นคงก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาได้
- กฎหมายความมั่นคงจะช่วยฟื้นฮ่องกงจริงหรือ?
สำหรับชาวต่างชาติที่มีเป้าหมายเดินทางไปฮ่องกงมักมี 2 จุดประสงค์หลักๆ คือการเดินทางไปท่องเที่ยว และการเข้าไปทำธุรกิจในฮ่องกง ซึ่งเป็นฐานการเงินที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก
เมื่อปี 2561 มีผู้เดินทางเข้าฮ่องกงประมาณ 65.1 ล้านคน ขณะที่ปี 2562 ซึ่งฮ่องกงมีการประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อเนื่องหลายเดือน ทำให้จำนวนนักเดินทางเข้าฮ่องกงลดลงมากถึง 14.2% เหลืออยู่ที่ 55.9 ล้านคน
เช่นเดียวกับการลงทุนในฮ่องกงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศในฮ่องกงเมื่อปี 2562 อยู่ที่กว่า 53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปี 2561 ที่อยู่ที่ราว 97,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงถึง 45.2% ผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงเช่นกัน
ขณะที่ในปีนี้มีการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ทั้งโลกรวมทั้งฮ่องกงอาจเผชิญกับตัวเลขเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ทรุดลงไปอีก ทำให้ฝ่ายสนับสนุนกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่มองว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยฟื้นฟูเสถียรภาพและความสงบกลับมาสู่ฮ่องกงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การตีความเนื้อหากฎหมายความมั่นคงที่อาจครอบคลุมพลเมืองชาติอื่นนอกฮ่องกง ทำให้หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย ออกคำแนะนำถึงพลเมืองเตือนการเดินทางไปฮ่องกงว่าอาจถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ โดยเฉพาะในกรณีที่เคยมีประวัติเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์ในฮ่องกง ซึ่งนี่อาจเป็นปัจจัยให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าฮ่องกงลดลงด้วย
การใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงจึงยังต้องรอการพิสูจน์ว่า การใช้กฎหมายจากจีนเพื่อรักษาความสงบ แลกกับการเสียจุดเด่นที่ฮ่องกงเคยเป็นเมืองเสรี ปราศจากอิทธิพลจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะทำให้การท่องเที่ยวและการลงทุนกลับมายังฮ่องกงมากน้อยแค่ไหน
ข้อมูลอ้างอิง CNN, AFP, macrotrends
"ถ้า" - Google News
July 09, 2020 at 03:30PM
https://ift.tt/2ZbFNgq
ตีความ ก.ม.ความมั่นคง ไปฮ่องกงอาจถูกจับถ้าวิจารณ์จีนจริงหรือ - ไทยรัฐ
"ถ้า" - Google News
https://ift.tt/2BjqBEF
Home To Blog
No comments:
Post a Comment