การเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ส่อเค้าว่าจะวุ่นวายแน่ จะมีทั้งคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง ยืดเยื้อหลายสัปดาห์ หรือเป็นเดือนๆ ศาลต่างๆ จะต้องพร้อมเพราะจะมีทั้งอุทธรณ์ ฎีกา เพราะจะใช้การลงคะแนนทางไปรษณีย์
ยิ่งถ้าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ก็คงไม่ยอมง่ายๆ ต้องสู้ทุกวิธี โดยเฉพาะถ้าผลคะแนนออกมาคู่คี่ แม้โพลช่วงนี้แสดงให้เห็นว่าคู่ท้าชิง โจ ไบเดนยังนำห่างหลายคะแนน และถ้าเลือกตั้งวันนี้ รับรองชนะ เว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์ เฮือกสุดท้าย
วิกฤตในสหรัฐฯ เกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโรคโคโรนาไวรัสยังไม่มีวี่แววว่าจะลด จะสร้างปัญหาในการไปลงคะแนนในคูหาแบบเดิม ทั้งคู่ชิง ทรัมป์ ของพรรครีพับลิกัน และไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต แทบไม่มีโอกาสได้หาเสียง เพราะกลัวติดเชื้อ
เห็นชัดอยู่แล้วว่าเมื่อทรัมป์ไปหาเสียงในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา มีคนมาร่วมประมาณ 6 พันกว่าคน หลังจากนั้นมีคนติดเชื้อมากมาย รวมทั้งตัวผู้ว่าการรัฐด้วย และการระบาดยังรุนแรงขณะนี้ แทบไม่มีใครอยากไปเสี่ยง ถ้ามีคนมารณรงค์หาเสียง
ก่อนหน้านี้มีคนถามทรัมป์ว่า ถ้าผลการเลือกตั้งออกมาแล้วตัวเองแพ้ จะฟ้องศาลให้นับคะแนน หรือชี้ขาดอย่างไร หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่าแน่นอนที่สุด และทรัมป์จะไม่ยอมรับอะไรง่าย ยิ่งถ้าตัวเองพ่ายแพ้แล้ว ยิ่งเป็นสภาวะที่ทำใจ ยอมรับไม่ได้
ทรัมป์ประกาศก่อนหน้านี้ เหมือนเป็นการเตือน และนำร่องไว้ว่า การเลือกตั้งผ่านทางไปรษณีย์จะต้องมีการโกงแน่นอน ใครได้ฟังทรัมป์ว่าอย่างนี้ก็ต้องขนหัวลุก
และทรัมป์มีประวัติด้านการโกง งอแง และหาเรื่องไม่จบง่ายๆ ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกตั้งมองด้วยว่าทรัมป์อาจไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าตัวเองแพ้ และแม้จะมีผลการนับคะแนนว่าตัวเองแพ้ ก็จะไม่ยอมรับว่าตัวเองพ่ายแพ้ ต้องหาเรื่องฟ้องร้อง
ก่อนหน้านี้มีผู้สื่อข่าวถามไบเดนว่า ถ้าทรัมป์แพ้การเลือกตั้ง แต่ไม่ยอมรับผล และไม่ยอมย้ายออกจากทำเนียบขาว ไบเดนกล่าวเชิงติดตลกว่า “ให้ทหารจับเอาตัวออกไป”
การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีควบไปกับการเลือกตั้งส่วนหนึ่งของ ส.ส. และ ส.ว. รวมทั้งผู้ว่าการรัฐ ซึ่งการระบาดของโคโรนาไวรัส จะทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายแน่
คณะรณรงค์การเลือกตั้งของทั้งสองพรรค ได้เตรียมนักกฎหมาย และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเลือกตั้งไว้พร้อม เพราะคาดหมายว่าจะต้องมีคดีฟ้องร้องกันมากมายแน่ และทรัมป์เป็นคนมีจิตใจ อารมณ์ไม่ปกติ ย่อมไม่อยากเผชิญกับความอับอาย
และจะถูกจารึกชื่อไว้ว่าเป็นประธานาธิบดีเพียงสมัยเดียว ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด
ทั้งสองพรรคต้องเตรียมพร้อม การเลือกตั้งก็ต้องพยายามให้ชนะขาด แต่ก็ต้องมีทั้งนักกฎหมาย นักประวัติศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และงบประมาณก้อนใหญ่ ทำให้มองว่าศึกชิงชัยชนะขั้นสุดท้ายหลังจากการเลือกตั้ง จะลากยาว สู้กันหลายศาล
ช่วงการสู้ศึกระหว่าง จอร์จ ดับบลิว. บุช กับ อัล กอร์ ในการนับคะแนนในรัฐฟลอริดา ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2000 ก็ยืดเยื้อ ลากยาว จนอัล กอร์ยอมปล่อยให้บุชชนะไป เพราะมองว่าจะทำให้เสียเวลาสำหรับงานบริหารประเทศ
แต่ทรัมป์ไม่ใช่ อัล กอร์ ไม่ใช่คนมีน้ำใจนักกีฬา นิสัยเป็นคนเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ ไร้ยางอาย มีพฤติกรรรมน่ารังเกียจตามที่หลานสาว แมรี ทรัมป์ ได้เขียนไว้ในหนังสือขายดี
ทรัมป์เองก็ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าแพ้แน่ จากการประเมินของโพลหลายสำนัก แต่จะไม่ยอมรับเปิดเผย ทั้งยังพยายามหาทางตีตื้นด้วยการหาเสียงทุกจังหวะ แม้แต่การแถลงข่าว ก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่เป็นการหาเสียงโจมตีคู่แข่ง และคนอื่นๆ ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม
ด้วยเหตุที่ต้องใช้ทุกโอกาสเพื่อตีกินคะแนน ทรัมป์หวนกลับมาแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการตั้งรับสถานการณ์ระบาดของโคโรนาไวรัส และจะต้องใช้เวลานี้แก้ตัวสำหรับความล้มเหลว เมื่อตัวเลขคนติดเชื้อและเสียชีวิตยังเพิ่มตลอด ลามไปทั่วประเทศ
นอกจากทำตัวเป็นคนขวางโลก ขัดแย้งกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แล้ว ทรัมป์ใช้สัญชาตญาณของตัวเองในการจัดการ ตั้งรับปัญหา แทนการใช้หลักวิทยาศาสตร์
ทรัมป์ไม่ได้แถลงข่าวเรื่องการระบาดนานกว่า 3 เดือน เพราะไม่มีประเด็นใหม่ด้านความก้าวหน้า ก่อนหน้านี้ได้พลาดในประเด็นสำคัญ ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ จนถึงขั้นเป็นตัวตลก เกี่ยวกับการแนะนำให้ใช้ยาฆ่าเชื้อฉีดเข้าตัว และไม่สวมหน้ากาก
เมื่อมาถึงจุดนี้ ทรัมป์ฉวยโอกาสได้สวมหน้ากาก และพลิกให้เป็นจุดแข็ง โดยชักชวนให้คนอเมริกันสวมหน้ากาก และถ่ายภาพตัวเองสวมหน้ากากลงคลิปเผยแพร่ พร้อมอวดอ้างว่าการสวมหน้ากากอนามัยของตัวเองนั้นเป็น “ความรักชาติ”
ในการให้สัมภาษณ์ “ฟ็อกซ์นิวส์” ทรัมป์ถูกถามว่าจะยอมรับผลง่ายๆ หรือไม่ ถ้าคะแนนชี้ว่าแพ้ ทรัมป์บอกว่า “ต้องขอดูก่อนนะ ผมจะไม่บอกว่าใช่ หรือไม่ใช่ และจะไม่ทำแบบครั้งที่ผ่านมา” ซึ่งทรัมป์ชนะนางฮิลลารี คลินตัน เหนือความคาดหมาย
ว่ากันว่าครั้งนั้น ทรัมป์ยังประหลาดใจว่าตัวเองชนะได้อย่างไร และการเข้าชิงก็ไม่ได้หวังตั้งแต่ต้น เพียงแต่ต้องการโฆษณาตัวเอง และโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การเลือกตั้งครั้งนี้ คนอเมริกันส่วนใหญ่คาดว่าจะลงคะแนนทางไปรษณีย์ ผลจะล่าช้า
วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน รัฐเพนซิลวาเนีย นายริค แซงโตรัม ซึ่งสนับสนุนทรัมป์ บอกว่า “ถ้าผลออกมาใกล้เคียง ทรัมป์ต้องแย้ง และขอนับคะแนนใหม่แน่ หรือถ้าคะแนนห่างกันมาก ทรัมป์ก็ยังจะสู้เช่นกัน แต่จะไม่ได้รับการสนับสนุน ผลสุดท้ายก็คงต้องยอม”
จากนี้ไป ต้องดูว่าคะแนนระหว่างทรัมป์กับไบเดนจะห่างกว่าเดิมหรือใกล้เคียงสูสี ถึงอย่างไรทรัมป์ก็คงไม่ยอมให้ฉายา “ขี้โกงและขี้โกหก” ไม่ได้ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของแท้แน่
"ถ้า" - Google News
July 22, 2020 at 02:56AM
https://ift.tt/2OIl4Lk
ถ้า 'ทรัมป์' แพ้ แต่ไม่ยอมแพ้... - ผู้จัดการออนไลน์
"ถ้า" - Google News
https://ift.tt/2BjqBEF
Home To Blog
No comments:
Post a Comment